แชร์เทคนิกง๊ายยยยง่าย ภาษาอังกฤษมีตั้ง 12 tense จำยังไงให้ได้โดยไม่ต้องท่อง!!!
ในเมื่อ AEC ก็ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว ภาษาอังกฤษดูจะมีความสำคัญขึ้นมาเรื่อย ๆ
เรียนกันมาสิบกว่าปี แต่ แหมมม๊ ไม่เข้าใจ จำไม่ได้ซักที วันนี้เอมเลยมีเทคนิกง่ายๆในการจำ tense ทั้ง 12 มาบอกจ้าาา ^___^
เตรียมใจให้พร้อม อาจจะยาวเล็กน้อย แต่คอนเฟิร์มเลยว่าไม่ยากแน่นอน
เพราะจะยังไม่ลงรายละเอียดเรื่อง tense ไหน ใช้เมื่อไหร่ ใช้ยังไงน้า จะมาสอนทริคการจำให้ได้แบบง่ายๆก่อน
-------------------------------------------------------------------------------------
เรียนกันมาสิบกว่าปี แต่ แหมมม๊ ไม่เข้าใจ จำไม่ได้ซักที วันนี้เอมเลยมีเทคนิกง่ายๆในการจำ tense ทั้ง 12 มาบอกจ้าาา ^___^
เตรียมใจให้พร้อม อาจจะยาวเล็กน้อย แต่คอนเฟิร์มเลยว่าไม่ยากแน่นอน
เพราะจะยังไม่ลงรายละเอียดเรื่อง tense ไหน ใช้เมื่อไหร่ ใช้ยังไงน้า จะมาสอนทริคการจำให้ได้แบบง่ายๆก่อน
-------------------------------------------------------------------------------------
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ประโยคในภาษาอังกฤษเค้าจะไม่เหมือนภาษาไทยนะมันจะมีการเปลี่ยนแบบรูปแบบของประโยคไปตามเวลาที่พูดถึงซึ่งรูปแบบประโยคที่ต่างๆกันออกไปที่เราเรียกกันว่าเจ้า "tense" เนี่ย จะใช้เพื่อบอกว่าสิ่งที่เค้าพูดถึงว่า มันคือตอนไหน เมื่อไหร่ ต่อเนื่องมั้ย พึ่งเสร็จไป อะไรยังไง แบบนี้ เราก็เลยต้องมาเข้าใจมันหน่อย เพื่อที่จะได้เอาไปใช้ให้มันพูด สื่อสารให้ได้ชัดเจนที่สุดว่าสิ่งที่เรากำลังพูดถึงเนี่ยมันเกิดตอนไหนนะ
จะได้เป็นสาวยุคใหม่พ่นอังกฤษไฟแล่บบบ ไม่ตกม้าตายไปกับ AEC ฮี่ก่อบก่อบบ
มาพักกันหน่อย หายใจเข้าลึกๆซักหนึ่งฮึบ เราจะเริ่มกันจริงๆแล้ววว
ฟื ด ด ด ด ด ด ด ด . . . . (นั่นเสียงหายใจเข้าหรือสูดขี้มูก 5555)
>> คลิกเพื่อดาวน์ไฟล์โหลดรูป <<
แนะนำให้เปิดรูปดู พร้อมกับอ่านไปด้วยนะคะ จะได้ไม่งง
มาเริ่มกันเลย :D
ก่อนอื่นเราดูตารางคร่าวๆ ก็จะเห็นว่าตารางนี้ มี 4 คอลัมน์ กับอีก 3 แถว รวมทั้งหมดไฝว้กันออกมาได้เป็น 12 ช่อง
โดยที่หัวตารางด้านบนในแนวตั้ง จะเป็นสิ่งที่เรียกว่า tense จะมี 4 อัน คือ
1.Simple 2.Continuous 3.Perfect 4.Perfect Continuous
1.Simple 2.Continuous 3.Perfect 4.Perfect Continuous
ส่วนหัวตารางด้านซ้ายในแนวนอนจะเป็น time (เวลา) จะมี 3 อัน คือ
1.Present 2.Past 3.Future ก็คือ ปัจจุบัน, อดีต, อนาคต นั่นเอง
-------------------------------------------------------------------------------------
1.Present 2.Past 3.Future ก็คือ ปัจจุบัน, อดีต, อนาคต นั่นเอง
-------------------------------------------------------------------------------------
-------------------------------------------------------------------------------------
ทีนี้เราค่อยๆมาดูไปด้วยกันทีละคอลัมน์ในแนวตั้งนะ เวลาอ่านชื่อ tense ก็อ่านช่องด้านซ้ายก่อน แล้วก็ต่อด้วยช่องด้านบน
ช่องแรกคือ Simple ง่ายสุดเลย
• Present Simple ก็แบบที่เราเรียนกันมาง่ายๆเลย Sub + V1 (เติม s/es เมื่อประธานเป็นเอกพจน์)
• Past Simple ก็ง่ายอีก Sub + V2 ไปเลย ในเมื่อ V2 มันก็คือกริยาที่ใช้สำหรับในอดีตอยู่แล้วใช่มะะ
• Future Simple ก็ง่ายอีก เราเอา Sub + will + Vinf โดยที่คำว่า will แปลว่า "จะ" มันจะทำหน้าที่เป็นกริยาช่วยในประโยค ตามด้วย Vinf ก็คือ Verb ที่ไม่เปลี่ยนไม่เติมอะไรใดๆทั้งสิ้น หรือแบบที่เราจำกันมาตลอดว่า Sub + will + V1 นั้นแหละ เราก็จำว่า ถ้าจะบอกว่า จะทำนู่น จะไปนี่ จะเอานั่น เราก็แค่ใช้ will + verb ข้างหลังที่ไม่ต้องไปเติมไรให้มันอีก เพราะ will บอกไปหมดแล้วว่ามันเป็นอนาคต เราเหลือแค่ต้องบอกว่าจะทำอะไร แค่นั้นพอ อย่าเยอะ!
ดังนั้นเมื่อไหร่เจอ I will eating. I will eaten. ผิดทันที !!!!!!!!!!
ดังนั้นเมื่อไหร่เจอ I will eating. I will eaten. ผิดทันที !!!!!!!!!!
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
(รูปเดียวกันกับข้างบน)
(รูปเดียวกันกับข้างบน)
ช่องที่สองคือ Continuous รูปประโยคของมันจะเป็น V. to be + Ving (Verb to be ก็คือ is am are เป็น อยู่ คือ ที่ท่องกันมานั้นแหละะะะ)
" มันจะอยู่ช่วงเวลาไหน มันก็เป็น V.to be + Ving โดยที่เราผันตัว V.to be ไปตามเวลาของมัน แต่ Ving คงเดิมตลอด เพราะตัวที่บอกความเป็น Continuous คือ Ving "
• Present Continuous ก็เลยจะเป็น Sub + is/am/are + Ving ดังนั้นเมื่อไหร่เจอ I'm kicks. I'm loves. ผิดทันที!!! แต่ถ้าเจอ I'm kicked. I'm loved. อาจจะไม่ผิดนะ เป็นรูปประโยคแบบ Passive Voice ต้องแปลความหมายเอา แต่พวก I'm said.... งี้ ผิดทันที!
• Past Continuous รูปประโยคแบบเดิมเปี๊ยบบบบ แต่เราผันตัว is/am/are ให้กลายเป็นอดีตไปซะ ก็จะได้เป็น Sub + was/were + Ving
• Future Continuous พอเป็นอนาคต เราก็ต้องใช้ will มาบอกว่าเรา "จะทำ" ใช่ม่ะ แล้วหลัง will มันต้องไม่เปลี่ยนไม่เติมอะไร เราก็เลยได้เป็น Sub + will + be + Ving ไอ่ be ตรงกลางนั่นมันก็มาจาก V. to be ไง จำได้มั้ยรูปประโยคต้องเป็น V.to be + Ving ตลอด
สรุป ไปดูในรูปจะเห็นว่า ช่อง Continuous ในแนวตั้ง ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหน
จะมีกรอบสีเหลืองที่เป็น V.to be ตลอด และที่สำคัญที่สุดคือ มีตัวสีส้ม คือ Ving ตลอด !!!!!!!!!
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
ช่องถัดมาคือ Perfect รูปของมันจะเป็น V. to have + V3 ที่ดูเหมือนยาก แต่ก็ไม่ยากเลย
เหมือนเดิมเลยนะ
" มันจะอยู่ช่วงเวลาไหน มันก็เป็น V.to have + V3 โดยที่เราผันตัว V.to have ไปตามเวลาของมัน แต่ V3 คงเดิมตลอด เพราะตัวที่บอกความเป็น Perfect คือ V3 "
• Present Perfect ก็เลยเป็น Sub + has/have + V3 ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ (He,She,It, คน สัตว์ ของ 1 อัน) ก็ใช้ "has" ถ้าเป็นพหูพจน์ (You,We,They, คน สัตว์ ของมากกว่า 1) ก็ใช้ "have"
• Past Perfect ก้แบบประโยคเหมือนเดิม แต่เราต้องทำ has/have ให้มันเป็น ช่อง 2 ไง เพราะ V2 คือ V ที่บอกอดีต แล้วช่อง 2 ของ has/have ก็คือ had เราเลยได้เป็น Sub + had + V3 อุต่ะะะ ง่ายจิมจิม!!
• Future Perfect พอเป็นอนาคตก็ต้องบอกว่า "จะ..." เหมือนเดิม ก็ยัดมันเข้าไปเล้ยยย ได้เป็น Sub + will + have + V3 เพราะหลัง will บอกแล้วว่า verb มันต้องธรรมดา อย่าเยอะ ไม่เติม ไม่เปลี่ยน เลยต้องกลับมาใช้ have ธรรมดา แล้วก็ตามด้วย V3 ซะ ได้ Perfect ด้วย แล้วยังเป็น Future อีกตะหาก
**และใช้ have อย่างเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ has จำซะว่าเราเน้นบอกว่ามันเป็นอนาคต ส่วน Perfect เราแค่มี have + V3 มันก็ perfect แล้วไง ไม่ต้องไป has ให้มันเยอะ!!**
ดังนั้นเมื่อไหร่ใช้ will has ..... หรือ will had..... หรือ will v3..... ผิดทันที !!!!!!!!
ดังนั้นเมื่อไหร่ใช้ will has ..... หรือ will had..... หรือ will v3..... ผิดทันที !!!!!!!!
สรุป ไปดูในรูปจะเห็นว่า ช่อง Perfect ในแนวตั้ง ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหน
จะมีกรอบสีพีชที่เป็น V.to have ตลอด และที่สำคัญที่สุดคือ มีตัวสีชมพู คือ V3 ตลอด !!!!!!!!!
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
เกือบจบแล้วววว หยุดพักหายใจซักฮึบ แล้วมาลุยกันต่อ :D
เกือบจบแล้วววว หยุดพักหายใจซักฮึบ แล้วมาลุยกันต่อ :D
สุดท้ายยยยยก็คือ Perfect Continuous ซึ่งจริงๆมันก็ง่ายๆ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า Perfect Continuous มันก็เลยต้องมีทั้ง Perfect คือ have + V3 แล้วก็ Continuous ก็คือ Ving ด้วย รูปประโยคของมันก็เลยเป็น Sub + V. to have + V.3 (ซึ่งในที่นี้คือ been ซึ่งเป็นช่อง 3 ของ be) + Ving
อันนี้อาจจะดูมึนๆ ยาวๆหน่อย แต่ไม่ยากเลย ค่อยๆอ่านนะคะ
• Present Perfect Continuous จากรูปแบบมันเราเลยได้เป็น Sub + has/have + been + Vingโดย has/have been ก็บอกความเป็น perfect ส่วน Ving ก็บอกความเป็น Continuous ! จับมาต่อกัน แค่เนี้ยยยยยย
• Past Perfect Continuous ก้จับ has/have มาทำเป็นอดีตซะ ที่เหลือไม่ต้องไปเปลี่ยน อย่าเยอะ!!!!! ก็ได้เป็น Sub + had + been + Ving นั่นง่ะะ had ก็บอกว่าเป็นอดีต แล้ว had+been ก็บอกความเป็น perfect แล้ว Ving ก็บอกความเป็น Continuous ครบบบบบ !!!
• Future Perfect Continuous เป็น future เมื่อไหร่ ใช้ will เมื่อนั้น! มี will เมื่อไหร่หลัง will เป็น have เท่านั้น! เราก็เลยได้ว่า Sub + will + have + been + Ving โดย wil บอกความเป็นอนาคต have been บอกความเป็น perfect แล้ว Ving ก็บอกความเป็น Continuous !!!!!
ดังนั้นเมื่อไหร่ใช้ will + has + been + Ving ผิดทันที !
ใช้ will + been + Ving ผิดทันที ! ใช้ will + have + be + Ving ผิดทันที !!!!!!!
ดังนั้นเมื่อไหร่ใช้ will + has + been + Ving ผิดทันที !
ใช้ will + been + Ving ผิดทันที ! ใช้ will + have + be + Ving ผิดทันที !!!!!!!
สรุป ไปดูในรูปจะเห็นว่า ช่อง Perfect Continuous ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลา ปัจจุบัน อดีต อนาคต
จะมี Sub + V.to have ในกล่องสีพีช + been แล้วตบท้ายด้วย Ving ตลอด !!!!!!!!!!!
-----------------------------------------------------------------------------------------
จบแว้วววววว 12 tense เห็นมั้ยง่ายนิดเดียว :D
ใครยังไม่เข้าใจ ลองดูในภาพตารางอีกซักรอบ แล้วดูความสัมพันธ์ของแต่ละช่องในแนวตั้งนะคะ
จะเห็นว่า เอ๊ะ มันมีตัวสีส้มเหมือนกันเลย สีชมพูเหมือนกันเลย ค่อยๆดูไปทีละนิดนะคะ ^___^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น