วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2559

สูตรวิธีทำ"ไข่เค็ม"

สูตรวิธีทำ"ไข่เค็ม"ให้แดงเป็นสีสดมันเยิ้มๆทานอร่อยสูตรสำหรับทำกินทำขาย เราย้ำในสูตรว่าควรจะใช้ไข่เป็ดดีกว่าไข่ไก่ข้อดีที่เปลือกของไข่เป็ดสดมีรูเล็กกว่าไข่ไก่คือ เชื้อต่าง ๆ ก็จะเข้าไปในไข่เป็ดไข่ยากกว่าไข่ไก่เนื้อไข่ขาวของไข่เป็ด จะมีความแข็งมากกว่าไข่ไก่ ทำให้เวลาต้มแล้วจะได้เนื้อไข่ขาวที่มีรสชาตินุ่ม เป็นเนื้อเดียวกัน
วัตถุดิบ ::
ไข่เป็ดดิบ 10 ฟอง
ภาชนะสำหรับดองไข่ (ที่ไม่ทำปฏิกิริยากับเกลือ เช่น โหลแก้ว แก้วพลาสติก กะละมัง เครื่องเคลือบดินเผา)
เกลือ 1 ถ้วยตวง (1 ถ้วยตวง = 16 ช้อนโต๊ะ = 240 กรัม = 8 ออนซ์)
น้ำสำหรับต้มน้ำเกลือ 4 ถ้วยตวง (หรือ 1 ลิตร)
เหล้าขาวใส่เพื่อให้ไข่แดงเป็นสีสดเข้มเป็นน้ำมันเยิ้ม ๆน่ารับประทาน ใส่ในปริมาณเล็กน้อยนะคะ ไม่ต้องเยอะ
วิธีทำ ::
ล้างไข่เป็ดให้สะอาด สะเด็ดน้ำจนแห้งสนิท ใส่ลงในโหลแก้ว เตรียมไว้
ทำน้ำเกลือสำหรับดองไข่ โดยใส่เกลือกับน้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟจนเดือด และคนให้เกลือละลายจนหมด ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็นสนิทแล้วค่อยเติมเหล้าขาวในน้ำเกลือที่เย็นแล้วผสมให้เข้ากันนิดหน่อย
เทน้ำเกลือที่เย็นแล้วลงในโหลไข่จนท่วมไข่ จากนั้นใช้ถุงพลาสติกใส่น้ำวางทับลงไปให้ไข่เป็ดจมอยู่ใต้น้ำ ตลอดเวลา ปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ในที่ร่ม นานประมาณ 2-3 อาทิตย์ สำหรับทำไข่ดาว เก็บไว้นานประมาณ 2 อาทิตย์ สำหรับทำไข่ต้ม เก็บไว้นานประมาณ 3 อาทิตย์
เคล็บลับ :: ทำอย่างไรให้ไข่แดงเค็มเป็นน้ำมัน ?
หลายคนชอบกินไข่เค็มที่มีไข่แดงเป็นน้ำมันเยิ้ม ๆ ออกมา เพราะทั้งมัน ทั้งอร่อย เทคนิคก็คือ หลังจากที่พักน้ำเกลือจนเย็นสนิทแล้ว คนผสมให้เข้ากัน แล้วเทใส่ลงในโหล จะทำให้ไข่แดงเค็มที่ได้ก็จะเป็นน้ำมันเยิ้ม ๆ น่ากินนั่นเองค่ะ
เคล็บลับ :: วิธีต้มไข่เค็มให้อร่อย
การที่จะต้มไข่เค็มให้อร่อยนั้น มีเคล็ดลับอยู่ที่ "สารส้ม" ทำได้โดยใส่น้ำลงในหม้อ ใส่สารส้ม 1 ก้อน หรือสารส้มป่นประมาณ 1/2 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยไข่ไก่ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง ต้มจนเดือด นานประมาณ 8-10 นาที ก็จะได้ไข่เค็มต้มสุดอร่อยไว้กินแล้ว
เคล็บลับ :: วิธีเก็บไข่เค็มต้มให้ได้นานที่สุด
ไข่เค็มที่นำไปต้มแล้วสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานประมาณ 1 เดือน ส่วนวิธีการเก็บรักษาไข่เค็มต้มให้ได้นานที่สุดคือ ให้ใส่สารส้มลงไปแกว่งในน้ำที่ใช้ต้มไข่ด้วย นอกจากจะยืดอายุไข่เค็มได้แล้ว สารส้มจะทำให้สีของเปลือกไข่ และเนื้อไข่ขาวสวยขึ้นอีกด้วย
ที่มาข้อมูลจากเว็บ http://cooking.kapook.com/view87786.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น