วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2558

how much etc เรียนภาษาอังกฤษ พื้นฐาน


ฝึกผสมคำสะกดภาษาอังกฤษง่ายๆ ฉบับเบื้องต้น กันเถอะ








A BIT ENG [Ep.15] ของโปรดของฉัน


ฝรั่งเรียนไทยตอนที่ ๓ ณ เกาะช้าง


วันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2558

สาบานตน และทำพาสปอร์ตอเมริกัน

ตามคำสัญญาค่ะ หลังจากที่เคยแชร์เรื่องราวการทำเรื่องสอบสัญชาติไปแล้ว วันนี้แอดมินขอเอาเรื่องการเข้าสาบานตนและการขอพาสปอร์ตอเมริกันครั้งแรกมาแชร์นะคะ แล้วจะเก็บข้อมูลนี้เข้าไว้ในแฟ้มอัลบั้ม General หรือข้อมูลทั่วไปด้วยค่ะ


สาบานตน.....และทำพาสปอร์ตอเมริกัน
เมื่อหลายวันก่อนแอดมินได้เขียนบทความเรื่องประสบการณ์การขอสัญชาติอเมริกันไปแล้วนะคะ ใครที่ยังไม่ได้อ่านบทความนั้นตามอ่านได้จากที่นี่เลยค่ะ
https://www.facebook.com/thaiusvisa/photos/a.289598134584478.1073741830.289542031256755/318524698358488/?type=3
วันนี้แอดมินจะมาเขียนเพิ่มเรื่องการเข้าสาบานตนค่ะ อันนี้บอกไว้ก่อนนะคะว่าการสาบานตนจะเข้าสาบานในสถานที่แตกต่างกัน วิธีการก้ออาจจะแตกต่างกันไปนิดหน่อย ข้อมูลตรงนี้เป็นข้อมูลจริงที่แอดมินเข้าสาบานมาด้วยตัวเองก้อจะขอเขียนเฉพาะประสบการตรงของตัวเองนะคะ ส่วนใครที่แตกต่างไปจากนี้ก้อเพราะเข้าสาบานต่างสถานที่กันค่ะ ไม่มีใครผิดหรือถูกนะคะ
ก่อนออกจากบ้านแนะนำให้ทานข้าวไปให้อิ่มก่อนเลยนะคะ เพราะเราต้องรอนานพอสมควร เช่นกรณีน้องไปตั้งแต่7.30น. เสร็จตอน 12.30น. พอดีเป๊ะๆ สาบานไปท้องร้องคร๊อกๆไป คนข้างๆกันบ่นหิวกันถ้วนหน้า
เอาล่ะค่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า...........
หลังจากที่แอดมินได้รับจดหมายนัดสัมภาษณ์เมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคมปีค.ศ.2014 ว่าเราได้วันสาบานตนเป็นวันที่30ธันวาคมค.ศ.2014 แอดมินก้อรู้ตัวแล้วว่าไปร่วมงานสาบานครั้งนี้ไม่ได้แน่ๆ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงฉลองคริสต์มาสและปีใหม่ของญาติๆสามีที่อยู่อีกรัฐนึง แอดมินก้อเลยส่งจดหมายตอบกลับไปหา USCIS ตามข้อมูลที่ระบุมาในใบนัดว่าเราไม่สสามารถไปร่วมงานครั้งนี้ได้ ขอให้ทาง USCIS จัดตารางสาบานตนครั้งใหม่ให้เราด้วย
วันที่3กลับมาจากต่างรัฐ แอดมินก้อได้รับใบนัดสาบานฉบับใหม่เป็นวันที่15มกราคมค.ศ.2015ซึ่งก้อคือเมื่อวานนี้เอง เป็นสถานที่เดิมเวลาเดิมคือ8.30am
บอกตามตรงนะคะว่าตื่นเต้นพอสมควร แอดมินตั้งปลุกไว้ที่6โมงเช้า(บ้านไกลจากสถานที่จัดพิธี30นาที) อาบน้ำสระผมแต่งตัวเสร็จก้อ7.30น.พอดิบพอดี โดนสามีที่เตรียมตัวเสร็จก่อนตั้งนานแล้วเร่งยิกๆเพราะเฮียกลัวรถติดแล้วเราจะไปไม่ทัน เร่งมากเราก้อรีบโดดขึ้นรถกดเนวิเกเตอร์แล้วบอกโชเฟอร์ว่าซิ่งเลยลูกพี่.....สมใจเฮียขาซิ่งเลยทีนี้
ไปถึงสถานที่8.09น. เดินเข้าไปต้องผ่านกระบวนการฝากเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด ผ่านระบบรักษาความปลอดภัย เหมือนเวลาเราผ่านระบบซีเคียวริตี้ของสนามบินน่ะค่ะ และเพราะที่นี่เป็นที่ว่าการศาลของ Federal ทำให้ไม่สามารถพกอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิด ไม่สามารถพกกล้องถ่ายรูปเข้าไปได้ ทำให้เราอดถ่ายรูปข้างในเลย ต้องรอจนเสร็จพิธีถึงออกมาถ่ายรูปกับกำแพงตึกได้....5555
พอผ่านระบบรักษาความปลอดภัยมาแล้ว ก้อเข้าไปในห้องที่จะจัดพิธีสาบานตนค่ะ เข้าไปด้านในจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจเช็คเอกสารนะคะ เราก้อยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ดูซึ่งจะมีตามนี้
1. จดหมายนัด (ทำการกรอกข้อมูลด้านหลังและเซ็นต์ชื่อให้เรียบร้อยค่ะ)
2. กรีนการ์ด
3. เอกสาร Permit ต่างๆที่เราเคยขอไว้
4. เอกสารเกี่ยวกับอิมมิเกรชั่นต่างๆที่เราเคยทำไว้
เอกสารที่ต้องเตรียมมานี้จะมีระบุอยู่ในจดหมายนัดด้านล่างของจดหมายนะคะ กรีนการ์ดและเอกสารต่างๆที่เราเตรียมไปเจ้าหน้าที่จะเรียกเก็บไม่คืนให้เรานะคะ เพราะหลังจากนี้เราไม่จำเป็นต้องใช้แล้วค่ะ
จากนั้นเราก้อไปนั่งรอค่ะ วันนี้มีคนมาจาก44ประเทศจำนวน156คนทั้งหมด คนที่มาเพื่อสาบานตนจะถูกจัดให้นั่งตามที่นั่งชั้นใน ในห้องพิจารณาคดี และญาติๆที่ตามมาด้วยก้อจะถูกจัดให้นั่งตามที่นั่งชั้นนอกในห้องเดียวกัน จากนั้นเราก้อจะถูกเรียกให้เอากรีนการ์ดไปคืนทีละแถวเก้าอี้ค่ะ หลังจากคืนกรีนการ์ดแล้ว เจ้าหน้าที่จะให้เราดูใบสัญชาติของเราว่าข้อมูลในนั้นถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ และให้เราทำการเซ็นต์ชื่อลงไป จากนั้นก้อมานั่งรอผู้พิภากษาออกมาทำพิธีค่ะ
ตามที่นั่งของเราจะมีซองเอกสารที่ทางเจ้าหน้าที่วางเอาไว้ให้คนละซองค่ะ ในนั้นก้อจะมีเอกสารข้อมูลที่จำเป็นสำหรับอเมริกันมือใหม่(คู่มือ)ให้เราอ่านด้วย พร้อมใบสาบานตนแผ่นเล็กๆที่เราเอาไว้อ่านตอนผู้พิภากษาพาสาบานค่ะ พอเช็คอินครบคนแล้วเจ้าหน้าที่จะขานชื่อคนที่ไม่มาอีกรอบเพื่อเช็คให้แน่นอนนะคะว่ามาหรือไม่มาจริงมั้ย ก่อนที่จะเริ่มพิธีค่ะ
......แหล่ะแล้วเวลาที่ทุกคนรอคอยก้อมาถึงแล้วค่า.....ผู้พิภากษามาเคาะประตูบอกว่าพร้อมแล้ว พอท่านเดินออกมาทุกคนในห้องต้องยืนขึ้นจนกว่าจะมีคนบอกให้นั่งได้ จากนั้นท่านก้อกล่าวแสดงความยินดีกับทุกคน และมีพูดถึงประวัติศาสตร์อิมมิเกรนท์นิดหน่อยพอเป็นพิธี จากนั้นก้อพากล่าวสาบานตนค่ะ
ทุกคนต้องยืนขึ้น และยกมือขวาตั้งขึ้นเสมอศรีษะ และกล่าวตามที่ท่านผู้พิภากษาพากล่าวจนจบค่ะ วันนี้ดีมากๆที่พวกเราไม่ต้องร้องเพลงเพราะไม่ได้ซ้อมไว้เลย เพราะมีสมาชิกคนนึงอาสาเป่าฟลุ๊ต ขอบอกว่าฝีมือระดับปรมาจารย์เลยเพราะมากๆ ทุกคนปรบมือกันเกรียวไม่ยอมหยุดเลยค่ะ
จากนั้นท่านก้อพูดคุยเล่นสักพักก่อนที่จะเดินเข้าด้านใน ต่อจากนี้ก้อเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ด้านนอกที่จะเรียกชื่อเราเข้าไปรับใบสัญชาติและใบเปลี่ยนชื่อสำหรับคนที่ทำการเปลี่ยนชื่อตามใบสมัคร N-400 เพื่อเอาไปยืนยันในตอนขอพาสปอร์ตและเก็บไว้เป็นหลักฐานในอนาคตนะคะ จากนั้นเราก้อแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมันค่ะ
จากนี้มาเข้าสู่ขั้นตอนการทำพาสปอร์ตนะคะ ในบางสถานที่จะมีเจ้าหน้าที่มารับทำพาสปอร์ตให้ด้วยค่ะ ที่ศาลแห่งนี้ก้อเช่นกันค่ะ ในศาลจะมีที่ทำการไปรษณีย์ของ USPS เปิดอยู่และให้บริการทำพาสปอร์ตค่ะ สิ่งที่เราต้องเตรียมไปก่อนจะออกจากบ้านไปสาบานตนมีดังนี้นะคะ
1. ใบสมัครที่กรอกแล้วเรียบร้อย ไปขอได้จากที่ทำการไปรษณีย์ไกล้บ้าน หรือปรินท์เอาจากออนไลน์ได้ค่ะ ส่วนตัวน้องกรอกออนไลน์จากเว็บของ USCIS เลยค่ะง่ายดี พิมพ์เสร็จก้อปรินท์ออกมาเก็บไว้เลยไม่ต้องมาเขียนให้ยาก
เข้ากรอกข้อมูลทางออนไลน์ได้จากในนี้เลยค่ะ กรอกเสร็จก้อสั่งปรินท์ออกมา(เซฟใส่เครื่องไว้ได้เลย) ห้ามเซ็นต์ชื่อนะคะ เราต้องไปเซ็นต์ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ค่ะ
http://travel.state.gov/…/pass…/english/passports/apply.html
2. ใบสัญชาติ ทางเจ้าหน้าที่จะถ่ายเอกสารให้เราเก็บไว้1ใบและจะเอาใบจริงส่งไปทำพาสปอร์ตค่ะ เราจะได้รับคืนตอนที่พาสปอร์ตส่งมาให้เรา เท่าที่จำได้ตอนทำของลูกๆ เค้าจะส่งเอกสารและพาสปอร์ตแยกกันมานะคะ อย่าตกใจถ้าได้รับซองพาสปอร์ตแล้วไม่ได้รับใบสัญชาติคืนค่ะ ให้รออีกสักอาทิตย์นึงค่อยเริ่มกังวลค่ะ
3. รูปถ่าย 2x2นิ้ว 1รูป วิธีถ่ายรูปด้วยตนเองดูได้จากที่นี่ค่ะ
https://www.facebook.com/thaiusvisa/photos/a.289598134584478.1073741830.289542031256755/318730431671248/?type=1&relevant_count=1
4. ใบขับขี่ของรัฐที่เราอยู่ หรือ ID หรือ พาสปอร์ตของไทยเรา ทั้งนี้ทั้งนั้น ชื่อและนามสกุลในเอกสารจากข้อนี้ต้องตรงกับใบสัญชาติเราทุกประการนะคะ หากไม่ตรงต้องเตรียมใบเปลี่ยนชื่อที่ออกให้โดยศาลในอเมริกา หรือใบเปลี่ยนชื่อที่ทางเจ้าหน้าที่ยื่นให้ในตอนทำพิธีสาบานตนมายืนยันค่ะว่าเราได้มีการเปลี่ยนชื่อ
5. ค่าธรรมเนียม ดูได้จากเว็บในข้อที่1นะคะ จะมีให้เลือกแบบ 28หน้า 52หน้า หรือทำแบบธรรมดารอ4-6สับปดาห์(โดยมากแต่3สัปดาห์ก้อได้แล้ว) หรือแบบด่วน(1-2สัปดาห์) จะทำแค่ Passport Book(เล่มพาสปอร์ตที่เราใช้กันทั่วโลกค่ะ) หรือ Passport Card(ใช้ได้แค่ในอเมริกาและboarderค่ะ ใช้international ไม่ได้) ราคาจะแตกต่างกันไป
จ่ายเงินแล้วก้อกลับบ้านมานั่งรอพาสปอร์ดและใบสัญชาติส่งกลับมาให้ที่บ้านค่ะ ส่วนใครรีบใช้ หรือจะเดินทางภายในวันสองวัน สามารถไปติดต่อทำได้โดยตรงที่ Passport Agencies เข้าดูรายละเอียดได้ตามนี้ค่ะ ว่ามีอยู่ที่ไหนบ้าง (ขอบคุณน้องผึ้ง Phiyada Bee นะคะที่มาแชร์ข้อมูลให้พี่ทราบ)
Passport Agencies จะสามารถออกพาสปอร์ตให้เราภายในวันนั้นเลยค่ะ แต่เราต้องทำนัดก่อนล่วงหน้านะคะ โดยเราต้องจ่ายเงินเพิ่มเป็นค่าเร่งค่ะ เอกสารที่ต้องเตรียมไปเพิ่มคือตั๋วเครื่องบินที่สามารถยืนยันว่าเรากำลังจะเดินทางด่วนค่ะ
ส่วนใครที่มีบุตรที่อายุยังไม่ถึง18ปี ยังไม่ได้สัญชาติอเมริกัน และมีกรีนการ์ดอยู่แล้ว อยู่กับคุณในตอนนี้ สามารถยื่นเรื่องทำพาสปอร์ตให้ลูกพร้อมตนเองได้เลยค่ะ เพราะลูกจะได้สัญชาติตามบิดา/มารดาโดนอัตโนมัติค่ะ ฟอร์มขอพาสปอร์ตต้องกรอกแยกของใครของมันนะคะ เอกสารของลูกที่ต้องเตรียมไปเพิ่มคือใบเกิด และกรีนการ์ดค่ะ พ่อแม่ต้องเซ็นต์คู่กันทั้ง2คนในฟอร์มขอพาสปอร์ตของลูก หากขาดคนใดคนหนึ่งต้องมีเอกสารเพิ่มดังนี้ค่ะ
1. หมายศาลที่ระบุว่าเราได้สิทธิ์ในตัวลูกแต่เพียงผู้เดียว หรือใบปกครองบุตรที่ได้มาจากเมืองไทยแปลและรับรองมาแล้วเรียบร้อย
2. พ่อหรือแม่ที่ไม่สามารถปรากฎตัวได้ต้องทำหนังสือยินยอมหรือ statement of consent ที่ต้องได้รับการ notary จากเจ้าหน้าที่ notary public พร้อมหลักฐานส่วนตัวคือ ใบขับขี่ พาสปอร์ต เอกสารเหล่านี้ต้องทำ Noraty ทั้งหมดนะคะ

วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2558

วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2558

วิธีทำ หมูกรอบ แบบไม่ต้องทอด ประหยัดเวลา แถมยังอร่อยแบบอ้วนน้อย :)

วิธีการทำหมูกรอบ แบบใช้เตาอบนั้นนั้นเอง 
อร่อยแบบง่ายๆ ไม่ต้องมีขั้นตอนอะไรให้ยุ่งยาก ไม่ต้องต้ม ไม่ต้องตาก ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ จะทำอย่างไร ไปชมกันเลยค่ะ
Credit  Facebook :   Sakda Kaewbuadee ( https://www.facebook.com/sakda.kaewbuadee )

เครื่องปรุงที่ใช้
เหล้าจีน - พริกไทยป่น - เกลือ - น้ำส้มสายชู

เริ่มต้นก็หาอะไรแหลมๆมาเจาะหนังหมูให้เป็นรู ถ้าเป็นแบบทอดนั้น จะสามารถใช้ส้อมมาจิ้มได้เลย  แต่แบบสูตรนี้ไม่ได้ต้มหมู ทำให้หนังเหนียว ไม่สามารถเจาะเข้าด้วยส้อม ผมเลยใช้มึดปลอกผลไม้แทน

เจาะรูให้ทั่วๆหนัง เพราะยิ่งเจาะรูได้ถี่มากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้หนังหมูพองฟูได้มากเท่านั้น แถมยังเป็นรูที่ช่วยระบายความร้อนไม่ให้มันระอุและระเบิดปุ๊ กระจายไปทั่ว

พลิกหมูให้หงายด้านเนื้อแดงขึ้นมา แล้วเอาเหล้าจีนทาลงไปที่เนื้อแดงให้ชุ่มทุกซอกทุกมุม  เหล้าจีนจะช่วยดับกลิ่นคาวของหมู และทำให้หมูมีรสชาติและกลิ่นออกแนวโอเรียลทอล 555 การเลือกเหล้าจีน แนะนำให้เลือกที่มีระดับแอลกอฮอลล์ค่อนข้างต่ำ ประมาณ 14 - 18 เปอร์เซ็นต์ก็พอ
สามารถหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป

จากนั้นก็ใส่พริกไทยป่นและเกลือที่เนื้อแดง และละเลงทาให้มันทั่ว

เอาแผ่นฟอยล์มาห่อหมูไว้แบบในรูป แล้วทาด้วยน้ำส้มสายชูให้ทั่วหนังหมูจนชุ่ม

ใช้เกลือเม็ดใหญ่โปะลงไปเยอะๆ จนกลบหนังหมูให้มิด ไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้หมูเค็ม เพราะเตาอบมันจะไม่ทำให้เกลือละลาย
ทำไมต้องใช้เกลือโปะบนหนังหมูเยอะขนาดนั้น? ก็เพราะเกลือจะไปดูดซึมซับเอาไขมันของหมูออกมาจนแห้ง และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมสูตรนี้ถึงไม่ต้องต้มแล้วเอาไปตากแดด แต่ระวังห้ามใช้เกลือป่นโดยเด็ดขาด เพราะเกลือป่นแค่โรยลงไปบนหนังหมู มันก็ละลายลงไปในรูที่เจาะทันที คราวนี้แหละ หมูกรอบก็จะกลายเป็นหมูเค็มไปโดยปริยาย และอีกอย่าง ตอนที่โปะเกลือ พยายามอย่าให้เกลือมันหล่นร่วงลงไปด้านในฟอยด์ ค่อยๆให้มันอยู่แต่เฉพาะบนผิวหนังเท่านั้น แต่ถ้ามันร่วงลงไปเล็กๆน้อยๆก็ช่างมันเถอะ

เอาหมูใส่ถาดเตรียมเข้าเตาอบ

ปรับอุณหภูมิของเตาไปที่ 210 องศา และเอาเข้าอบแบบไม่ต้องใช้พัดลม โดยใช้เวลาที่ 50 นาที แล้วไปนั่งเล่นเกมส์ซักพัก

พอถึงเวลา ก็เปิดฝาเตาอบทิ้งไว้สักครู่ ให้หมูมันหายร้อนก่อน แล้วค่อยเอาออกมาเพื่อที่จะลอกเกลือออกไปจากหนัง ผมใช้ส้อมนี่แหละเขี่ยมันออกไป

ในรูปจะเห็นได้ว่า เกลือด้านที่สัมผัสกับหนังหมู มันเปลี่ยนเป็นสีออกน้ำตาล เพราะมันดูดซับไขมันและความชื้นออกมาจนแทบเกลี้ยง ทำให้เราได้หนังหมูที่ค่อนข้างแห้งทีเดียว ทีนี้ก็เอาเกลือทิ้งไปซะ  พยายามเช็ดเกลืออกให้หมดทุกซอกทุกมุม

เมื่อเช็ดเอาเกลืออกหมดแล้ว ก็เอาหมูออกจากฟอยด์ แล้วจับมาลงในถาดที่มีตระแกรง เพื่อเข้าเตาอบต่อไป  การใช้ตะแกรง ก็เพื่อที่จะทำหมูทุกด้านสัมผัสกับความร้อนได้ทั่วถึงนั่นเอง

เอาเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 230-240 องศา เป็นเวลา 15 นาที ปรับเตาอบไปเป็นโหมดย่าง สังเกตดูถ้าหนังพองแล้วก็พอ แต่ถ้ายังพองไม่มากก็เพิ่มเวลาไปอีกซัก 5 นาที

แต่นแต๊นนน เสร็จแล้วหมูกรอบเตาอบ จะเห็นได้ว่าแทบจะไม่มีมันเลย ทำให้ดีต่อสุขภาพมากกว่าการทอดซะอีก แถมยังใช้เวลาสั้นมากๆด้วย
เพราะผมเริ่มทำตอน 12.00 และเสร็จสิ้นในเวลา 13.40 เร็วมากๆ 

เสร็จแล้วคร้าบ กินหมดแล้วด้วย 555

ลองเอาไปทำกันดูนะค่ะ หากครั้งหน้ามีอะไรดีๆ จะนำมาแบ่งปันกันค่ะ ยิ้ม
พาพันขอบคุณพาพันขอบคุณพาพันขอบคุณ